Latest posts

ปรากฏการณ์เดจาวู

ปรากฏการณ์เดจาวู

ปรากฏการณ์เดจาวู ผมเชื่อว่าใครหลายหลายคนก็เคยผ่านเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าเหมือนมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วแต่ก็จำไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อาจจะเคยฝันถึงเมื่อนานหลายปีมากๆ มาแล้วแล้วอยู่อยู่เหตุการณ์นั้นมันเกิดขึ้นจริง วันนี้จะพาทุกคนมาไขข้อข้องใจกับทฤษฎีการเดจาวู เชิญชวนทุกท่านมาศึกษาและได้รับสาระความรู้ในครั้งนี้ครับ นี่เป็นหนึ่งเรื่องราวที่ใครหลายหลายคนสงสัยและพยายามที่จะหามันให้เจอ ผมขอถามอย่างนี้ดีกว่าว่าคุณเคยไหมครับที่เวลาเราจะไปสถานที่หนึ่งที่เราไม่เคยไปมาก่อนแต่เมื่อเราไปถึงสถานที่นั้นรอกลับรู้สึกว่ามันคุ้นเคยเหมือนว่าเราเคยมายังที่นี่แล้วแล้วรู้สึกว่ามันมีความทรงจำบางอย่าง  ซึ่งตรงนี้ทางวิทยาศาสตร์ตามหลักความเชื่อเขามีศัพท์เรียกเหตุการณ์แบบนี้ว่าเดจาวู เอาเป็นว่าในวันนี้นั้นเราจะมาสืบหาว่าเดจาวูนั้นคืออะไรแล้วมันคือสิ่งที่เราสามารถเชื่อได้ไหมว่ามันจะเป็นอดีตแต่ชาติตามความเชื่อของคนเก่าแก่ได้หรือเปล่า มาครับเดี๋ยวเราไปค้นหาพร้อมพร้อมกัน เดจาวูเรียกว่าฝันแม่นจิงหรือเปล่า? ทำไมเหตุการณ์นี้คุ้นจังเลยมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือเราแค่ฝันไปเชื่อว่าหลายหลายคนไม่น้อยเลยที่ได้พบกับเหตุการณ์เหล่านี้ในลักษณะนี้หรือแม้แต่ฉันว่าฉันเคยมาที่นี่หรือบางสิ่งบางอย่างฉันได้เคยทำมาก่อนแล้วแต่ความจริงแล้วเรายังไม่เคยไปเรายังไม่เคยทำแต่กลับมีความรู้สึกคุ้นเคยเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้มันอาจจะดูงงงง เราลองมาค้นหากันดีกว่าว่าปรากฏการณ์ที่เรียกว่าเดจาวูมันคืออะไรและวิทยาศาสตร์สามารถค้นหาได้หรือไม่หรือแท้จริงแล้วมันคือสิ่งที่เรามองไม่เห็นกันแน่ เค้าว่ากันว่าเดจาวูจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลเป็นไทยว่าเคยเห็นมาแล้ว เป็นคำที่เอมีล บัวรัก ใช้ในหนังสือ ลาเวอนีร์เดซียองซีชิก เป็นคนแรกหมายถึงอาการที่รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอนั้นคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยพบเจอมาแล้วเป็นประสบการณ์ทางจิตเกิดได้กับทุกคนและทุกเวลาไม่ว่าหลับหรือตื่น ก็ตรงตัวเลยนะครับส่วนสาเหตุที่เกิดการเดจาวูนั้นยังค่อนข้างเป็นปริศนาอยู่ หรือไม่มีคำอธิบายใดที่สามารถมายืนยันความชัดเจนนี้ได้ เนื่องจากทดลองและจับต้องได้ยากมากๆ แต่หลักๆแล้วนั้นมีความเชื่อกันว่าเกิดจากความฝันหรือความทรงจำหรือประสบการณ์บางอย่างที่คล้ายกับที่เราเคยได้ทำมาก่อนนั่นเอง หรือหากมองในหลักการทางพุทธหรือที่เรียกง่ายง่ายว่าสายมู ตรงนี้เค้าเชื่อกันว่าผูกติดผูกจิตติดต่อกับชาติที่แล้วได้ บางคนก็มีความเชื่อว่าโลกของเรานั้นไม่ได้มีใบเดียว โลกคู่ขนานหรือจักรวาลคู่ขนานต่างๆ ซึ่งเมื่อเรานั้นสัมผัสหรือเชื่อมโยงกันได้มันจะมีณขณะหนึ่งเข้ามาในจิตสำนึกเหมือนมีความทรงจำอะไรบางอย่างแล่นเข้ามาสู่หัวสมองทั้งทั้งที่เรารู้ดีว่าเหตุการณ์นั้นหรือการกระทำนั้นนั้นมันไม่เคยเกิดขึ้นเลยแต่กลับคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกซึ่งที่เอ่ยมาข้างต้นนั้นก็คือความหมายของเดจาวูเบื้องต้นนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่นำทฤษฎีเดจาวูกลับจักรวาลคู่ขนานมาผูกเข้าด้วยกันด้วยครับ และยังอธิบายไว้ด้วยอีกด้วยว่าการที่เรารู้สึกหรือเห็นภาพคล้ายกับว่าสิ่งนั้นเราได้เคยทำมาก่อนสถานที่นั้นนั้นเราได้ไปมาแล้ว จริงๆเรานั้นได้ทำมาแล้วแต่เป็นเราอีกคนหนึ่งในจักรวาลคู่ขนานที่เป็นฝ่ายได้ทำสิ่งเหล่านั้น เหมือนกับว่า ณ ช่วงเวลานั้นที่เรารู้สึกว่าเราคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านั้น มันถูกจูนกับเราอีกคนหนึ่งที่อยู่ในอีกจักรวาลคู่ขนานได้ถูกโอนข้อมูลเข้ามา หากจะให้อธิบายอย่างง่ายง่ายก็คือในหลักความเชื่อของกลุ่มคนที่เชื่อในโลกคู่ขนานเผื่อมีโลกอีกหลายหลายใบอยู่ในจักรวาลแห่งนี้ แล้วก็จะมีคนที่เหมือนกับเราหรือที่เค้าเชื่อกันว่าเป็นเราอีกคนนึงก็อยู่อาศัยในโลกใบนั้นด้วยเช่นกัน แล้วตัวตนของเราในโลกแต่ละใบนั้นเหมือนมีเส้นอะไรบางอย่างที่ผูกพวกเราเอาไว้ด้วยกัน เมื่อช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่บังเอิญเส้นเหล่านั้นมันตรงกันทำให้ข้อมูลบางอย่างถูกส่งต่อมาถึงคนอีกคนหนึ่งในจักรวาลหนึ่ง ซึ่งต้องบอกเลยว่าทฤษฎีเดอะวอนั้นได้ถูกนำไปทำภาพยนตร์เป็นจำนวนมากเลยล่ะครับ ยกตัวอย่างภาพยนตร์มาเวล ที่มีตัวตนคู่ขนาน เป็นเราในอีกเวอร์ชั่นนึงในโลกนี้เราอาจจะเป็นมนุษย์แต่ในจักรวาลคู่ขนานอื่นๆแล้วอาจจะเป็นแมวอาจจะเป็นนกหรืออาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ซึ่งเป็นโลกคู่ขนานที่เราก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกัน ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นก็เป็นความเชื่อในอีกรูปแบบหนึ่งของกลุ่มคนที่เชื่อแบบนั้นอยู่ ทฤษฎีเดจาวูในหลักการพระพุทธศาสนาก็มีเช่นกัน มีคนฝันเห็นพญานาคมาให้เลขเด็ดซึ่งตัวบุคคลนั้นก็ได้นับถือศาสนาพุทธและนับถือพญานาคอยู่แล้ว ได้นำเลขชุดนั้นไปซื้อลอตเตอรี่แล้วก้บังเอิญถูกรางวัลชุดใหญ่ เหตุการณ์นี้อาจจะหมายถึงว่าตัวเองในอีกโลกหนึ่งมีความผูกพันอะไรบางอย่างกับพญานาคหรืออาจจะเป็นลูกหลานพญานาคกับชาติมาเกิดก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถจับต้องหรือพิสูจน์ได้เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลและเป็นความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ที่เอ่ยมานั้นเป็นเพียงความเชื่อเบื้องต้นของกลุ่มคนหนึ่งในด้านของทฤษฎีเดจาวูนั่นเอง แต่ถ้าถามว่าในทางวิทยาศาสตร์เค้ามองยังไง ในทางวิทยาศาสตร์เค้าอธิบายไว้ว่าแต่จาวูนั้นคือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับสมองไม่ใช่สิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติใดใด แต่ได้เดจาวูคือปรากฏการณ์ที่จะช่วยให้เราทำนายอนาคตได้นะครับ…

ชัยภูมิที่เป็นต่อ

ชัยภูมิที่เป็นต่อ

กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก ที่ราชสำนักได้จัดให้มีการอบรมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างข้าราชการด้วยกัน มือปราบผู้หนึ่งได้เล่าถึงวีรกรรมเมื่อครั้งอดีตของเขาให้ทุกคนได้ฟัง ครั้งหนึ่งข้าได้ไล่ล่าโจรป่าไปจนถึงที่เปลี่ยวแห่งหนึ่ง เจ้าโจรป่ามีวรยุทธพอตัว และวันนั้นมันมีพรรคพวกซุ่มอยู่อีกคน จึงกลายเป็นสองคนรุมฆ่าเพียงคนเดียว ด้วยที่พวกมันมีเยอะกว่าข้าจึงเสียเปรียบและเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แล้วครั้งนั้นท่านเอาชนะพวกโจรป่าได้อย่างไรอย่างนั้นหรือ ด้วยความที่ข้าตกเป็นรองข้าจึงแสร้งทำเป็นเพลี้ยงพล้ำหนีลงไปในแม่น้ำ พอพวกมันไล่ตามค่าไป ข้าก็รีบกระโดดขึ้นไปบนฝั่ง เมื่อนั้นข้าก็ได้เปรียบทางชัยภูมิ เพราะทั้งอยู่ที่สูงกว่าและไม่มีน้ำเป็นตัวลดทอนความเร็ว ถ้าจึงอาศัยจังหวะนี้จัดการพวกโจรให้มอบราบได้ในชั่วพริบตา อืม ท่านใช้เคล็ดวิชา ‘ชัยภูมิที่เป็นต่อ’ เพื่อความได้เปรียบนี่เอง “ถูกต้องแล้วล่ะ” “เยี่ยมยุทธ เยี่ยมยุทธ” เฉินกุ้ยเซียงซึ่งวันนั้นได้มาพูดคุยธุระกับเสนาบดี และกำลังจะเดินทางกลับเมื่อเห็นกิจกรรมที่พวกข้าราชการทำก็ได้เอ่ยชื่นชมกับเสนาบดีว่า “ท่านเสนาบดีช่างโชคดีที่มีข้าราชการที่มีความสามารถ ซ้ำยังมีความสมัครสมานสามัคคีกันเป็นอย่างดี” “อืม ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน” มือปราบนั้นแม้จะมีวรยุทธเป็นเลิศ เชี่ยวชาญสมรภูมิการต่อสู้แต่ในสมรภูมิแห่งการเจรจาต่อรองกับอ่อนด้อยไม่เป็นท่า ทุกครั้งที่มีการเจอเจรจาต่อรอง ก็มักจะประมาทเกรงใจเรื่องที่ควรพูดก็ไม่พูด ที่ไม่ควรพูดกลับพูดเป็นแบบนี้อยู่ประจำ “เถ้าแก่ รถม้าคันนี้ถ้าลดราคาให้ข้าได้สักเท่าไหร่” มือปราบ “อืม เห็นว่าท่านเป็นคนมีชื่อเสียง รถม้าคันนี้ค่ารถให้ท่านพิเศษเลยก็แล้วกัน จาก 1,000 ตำลึงลดเหลือ 900 ตำลึงก็พอ ราคานี้สำหรับท่านเพียงคนเดียวเลยนะ” พ่อค้ารถม้า “ให้ค่าเพียงคนเดียวเลยอย่างนั้นหรือ อืม เช่นนั้นค่าตกลงเอาคันนี้แหละ” “ขอบคุณท่านมือปราบ” พ่อค้ารถม้า “อืม ดีจังเลยได้ของถูกลงตั้งร้อยตำลึงแหน่ะ” แต่เมื่อมือปราบเอารถม้าออกมาที่ตลาด และจอดใกล้ๆกับคนที่มีรถม้าแบบเดียวกัน…

ทายาทกระสือบ้านป่าแดง

ทายาทกระสือบ้านป่าแดง

การสืบทอดรุ่นต่อรุ่นเรื่องราวของกระสือที่เล่าต่อๆกันมานานเท่านานจนถึงทุกวันนี้ มีจริงหรือไม่นั้นแต่เรื่องของความรักระหว่างคนกับกระสือนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วในหมู่บ้านป่าแดง ไอ้เคนหนุ่มหล่อที่มีใจใอ้กับบัวคลี่ ไอ้เติมลูกผู้ใหญ่ที่มักมากในกาม วันนี้ทุกอย่างจะถูกตัดสิน ทุกเรื่องจะต้องยุติ ระหว่างคนกับกระสือ ทายาทกระสือบ้านป่าแดง กระท่อมหลังหนึ่ง ตั้งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางหมู่แมกไม้ใหญ่ และในค่ำคืนนี้กลับมีเสียงร้องควรคางอย่างเจ็บปวดนางแว่วออกมาเป็นระยะ ในขณะที่มีร่างของคน 2 คน กำลังนั่งเฝ้าอยู่น่ากระท่อมอย่างกระวนกระวายใจ “นี่ป้าบัวแกร้องควรคางมาตั้งแต่หัวค่ำแล้วนะบัวคลี่ เมื่อไหร่อาการของแกจะดีขึ้นสักที” เสียงทุ้มๆ ดังขึ้น “แม่แกก็เป็นแบบนี้มา 2 คืนแล้วล่ะพี่เคน มันเป็นโรคเวรโรคกรรมของแม่ที่ต้องผจญ จนกว่ามันจะหายไปเอง หยุกยาอะไรก็ช่วยแกไม่ได้หรอก” “ไม่น่าเลยแบบนี้แกคงทุกข์ทนทรมานน่าดู พี่ก็อยากจะช่วยแกนะ บัวคลี่มีอะไรก็บอกมาได้เลย” ชายหนุ่มหน้าคมเข้ม หันมามองใบหน้างามซึ้ง จัดเต็มไปด้วยความหม่นหมองของหญิงสาว ด้วยความห่วงใย “ขอบใจพี่เคนมากจ้ะ ที่ช่วยเหลือดูแลฉันกับแม่เรื่อยมา แต่เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยได้จริงๆ นอกจากความตายเท่านั้น” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่งเครือแต่เจอไปด้วยความหมายบางประการ และเสียงร้องอย่างทรมานนั้นก็ดังกระทันแรงขึ้นกว่าเดิม จนหญิงสาวสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกกว้าง พร้อมกับผุดลุกขึ้นยืน “แม่ แม่ ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ” ว่าแล้วหล่อนก็ผุนผันไปที่ประตูก่อนจะผลักมันออก แล้วถ้าหลังตัวเข้าไป จากนั้นก็ปิดประตูด้านพลันไว้อย่างรวดเร็วโดยที่ชายหนุ่มกำลังจะตามเข้าไปถึงกับหยุดชะงัก “แม่ แม่เป็นอย่างไรบ้าง ฉันทนเห็นแม่ทุกข์ทรมานอย่างนี้ไม่ไหวแล้วนะ” หญิงสาวทรุดนั่งลงข้างๆ ร่างของหญิงสูงวัยที่ผอมแห้ง ผมเผ้าเป็นกระเซิง แล้วหน้าตาซูบซีดเหมือนคนอมโรคซึ่งนอนจมอยู่บนเสื่อหมอนผืนเก่า “เอ็งเข้ามาทำไม…

ปรากฏการณ์เดจาวู

ปรากฏการณ์เดจาวู

ปรากฏการณ์เดจาวู ผมเชื่อว่าใครหลายหลายคนก็เคยผ่านเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าเหมือนมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วแต่ก็จำไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อาจจะเคยฝันถึงเมื่อนานหลายปีมากๆ มาแล้วแล้วอยู่อยู่เหตุการณ์นั้นมันเกิดขึ้นจริง วันนี้จะพาทุกคนมาไขข้อข้องใจกับทฤษฎีการเดจาวู เชิญชวนทุกท่านมาศึกษาและได้รับสาระความรู้ในครั้งนี้ครับ นี่เป็นหนึ่งเรื่องราวที่ใครหลายหลายคนสงสัยและพยายามที่จะหามันให้เจอ ผมขอถามอย่างนี้ดีกว่าว่าคุณเคยไหมครับที่เวลาเราจะไปสถานที่หนึ่งที่เราไม่เคยไปมาก่อนแต่เมื่อเราไปถึงสถานที่นั้นรอกลับรู้สึกว่ามันคุ้นเคยเหมือนว่าเราเคยมายังที่นี่แล้วแล้วรู้สึกว่ามันมีความทรงจำบางอย่าง  ซึ่งตรงนี้ทางวิทยาศาสตร์ตามหลักความเชื่อเขามีศัพท์เรียกเหตุการณ์แบบนี้ว่าเดจาวู เอาเป็นว่าในวันนี้นั้นเราจะมาสืบหาว่าเดจาวูนั้นคืออะไรแล้วมันคือสิ่งที่เราสามารถเชื่อได้ไหมว่ามันจะเป็นอดีตแต่ชาติตามความเชื่อของคนเก่าแก่ได้หรือเปล่า มาครับเดี๋ยวเราไปค้นหาพร้อมพร้อมกัน เดจาวูเรียกว่าฝันแม่นจิงหรือเปล่า? ทำไมเหตุการณ์นี้คุ้นจังเลยมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือเราแค่ฝันไปเชื่อว่าหลายหลายคนไม่น้อยเลยที่ได้พบกับเหตุการณ์เหล่านี้ในลักษณะนี้หรือแม้แต่ฉันว่าฉันเคยมาที่นี่หรือบางสิ่งบางอย่างฉันได้เคยทำมาก่อนแล้วแต่ความจริงแล้วเรายังไม่เคยไปเรายังไม่เคยทำแต่กลับมีความรู้สึกคุ้นเคยเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้มันอาจจะดูงงงง เราลองมาค้นหากันดีกว่าว่าปรากฏการณ์ที่เรียกว่าเดจาวูมันคืออะไรและวิทยาศาสตร์สามารถค้นหาได้หรือไม่หรือแท้จริงแล้วมันคือสิ่งที่เรามองไม่เห็นกันแน่ เค้าว่ากันว่าเดจาวูจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลเป็นไทยว่าเคยเห็นมาแล้ว เป็นคำที่เอมีล บัวรัก ใช้ในหนังสือ ลาเวอนีร์เดซียองซีชิก เป็นคนแรกหมายถึงอาการที่รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอนั้นคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยพบเจอมาแล้วเป็นประสบการณ์ทางจิตเกิดได้กับทุกคนและทุกเวลาไม่ว่าหลับหรือตื่น…

Continue reading
ชัยภูมิที่เป็นต่อ

ชัยภูมิที่เป็นต่อ

กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก ที่ราชสำนักได้จัดให้มีการอบรมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างข้าราชการด้วยกัน มือปราบผู้หนึ่งได้เล่าถึงวีรกรรมเมื่อครั้งอดีตของเขาให้ทุกคนได้ฟัง ครั้งหนึ่งข้าได้ไล่ล่าโจรป่าไปจนถึงที่เปลี่ยวแห่งหนึ่ง เจ้าโจรป่ามีวรยุทธพอตัว และวันนั้นมันมีพรรคพวกซุ่มอยู่อีกคน จึงกลายเป็นสองคนรุมฆ่าเพียงคนเดียว ด้วยที่พวกมันมีเยอะกว่าข้าจึงเสียเปรียบและเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แล้วครั้งนั้นท่านเอาชนะพวกโจรป่าได้อย่างไรอย่างนั้นหรือ ด้วยความที่ข้าตกเป็นรองข้าจึงแสร้งทำเป็นเพลี้ยงพล้ำหนีลงไปในแม่น้ำ พอพวกมันไล่ตามค่าไป ข้าก็รีบกระโดดขึ้นไปบนฝั่ง เมื่อนั้นข้าก็ได้เปรียบทางชัยภูมิ เพราะทั้งอยู่ที่สูงกว่าและไม่มีน้ำเป็นตัวลดทอนความเร็ว ถ้าจึงอาศัยจังหวะนี้จัดการพวกโจรให้มอบราบได้ในชั่วพริบตา อืม ท่านใช้เคล็ดวิชา ‘ชัยภูมิที่เป็นต่อ’ เพื่อความได้เปรียบนี่เอง “ถูกต้องแล้วล่ะ”…

Continue reading
ทายาทกระสือบ้านป่าแดง

ทายาทกระสือบ้านป่าแดง

การสืบทอดรุ่นต่อรุ่นเรื่องราวของกระสือที่เล่าต่อๆกันมานานเท่านานจนถึงทุกวันนี้ มีจริงหรือไม่นั้นแต่เรื่องของความรักระหว่างคนกับกระสือนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วในหมู่บ้านป่าแดง ไอ้เคนหนุ่มหล่อที่มีใจใอ้กับบัวคลี่ ไอ้เติมลูกผู้ใหญ่ที่มักมากในกาม วันนี้ทุกอย่างจะถูกตัดสิน ทุกเรื่องจะต้องยุติ ระหว่างคนกับกระสือ ทายาทกระสือบ้านป่าแดง กระท่อมหลังหนึ่ง ตั้งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางหมู่แมกไม้ใหญ่ และในค่ำคืนนี้กลับมีเสียงร้องควรคางอย่างเจ็บปวดนางแว่วออกมาเป็นระยะ ในขณะที่มีร่างของคน 2 คน กำลังนั่งเฝ้าอยู่น่ากระท่อมอย่างกระวนกระวายใจ “นี่ป้าบัวแกร้องควรคางมาตั้งแต่หัวค่ำแล้วนะบัวคลี่ เมื่อไหร่อาการของแกจะดีขึ้นสักที” เสียงทุ้มๆ ดังขึ้น “แม่แกก็เป็นแบบนี้มา…

Continue reading
ปล่อยวาง

ปล่อยวาง : การปล่อยวางความทุกข์ ทำได้จริงหรือไม่

กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก มีเศรษฐีคนหนึ่งเขารู้สึกว่ากิจการและภาระหน้าที่การงานของเขานั้นทำให้เขาเป็นทุกข์ใจเป็นอย่างมาก เพราะเขามีสิ่งที่ต้องกังวลเต็มหัวจิตหัวใจมากมายเต็มเสียไปหมด “การทำการค้านี่ต้องอยู่กับการเงิน การลงทุนตลอด เวลาลงทุนเยอะ เวลาลงทุนอะไรไปแล้วต้องมัวมากังวลแต่ว่าจะขายออกหรือไม่ คู่แข่งจะเยอะหรือไม่ ราคาสินค้านั้นจะตกลงหรือไม่ ทำให้ถึงแม้ตัวข้าจะมีเงินทองมากมายสักเท่าไหร่ ก็ไม่รู้สึกว่าชีวิตจะมีความสุขอันใดเลย” เขาเป็นอยู่อย่างนี้มาเนินนานแล้ว ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งเกิดเป็นความเครียดสะสม จนเขารู้สึกว่าทนอยู่แบบไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาคิดขึ้นมาได้ว่า “เป็นเช่นนี้ต่อไปการมีเงินมีทองมากมายจะมีประโยชน์อันใด ในเมื่อตัวข้านั้นไม่มีความสุข ข้าได้ยินมาว่าบนเขาปัญญายุทธ์ มีนักพรตปริศนาผู้หนึ่ง ท่านมีของวิเศษ…

Continue reading
รอบรู้ที่วโลก

เจ้าชายมาเลย์ฟ้องมเหสีวัยรุ่นชาวอินโดนีเซียข้อหาหมิ่นประมาท

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้าหญิงตัดสินใจหนีจากราชวงศ์! นี่คือเรื่องราวของเจ้าหญิงที่หลบหนีจากราชวงศ์และกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวไปทั่วโลก นางแบบชื่อดังแต่งงานกับเจ้าชายราวกับซินเดอเรลล่าในชีวิตจริง แต่สุดท้ายเธอก็หนีออกมาและบอกทุกคนว่าเธอถูกเจ้าชายของเธอข่มเหงเหมือนทาส ในปี 1992 เด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ มาโนฮาร่า (หรือโอดีเลีย/ต่อไปจะเรียกคุณดีเลีย) คุณดีเลียมีเชื้อสายอเมริกัน-อินโดนีเซีย โตขึ้นเธอกลายเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงเพราะเธอสง่างามมาก แม้แต่นิตยสาร Harper’s Bazaar Indonesia เธอเคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีค่าที่สุดของประเทศ คุณดีเลียเป็นวัยรุ่นอายุสิบสี่สิบห้าปี จากนั้นวันหนึ่งในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549…

Continue reading
รอบรู้ที่วโลก

แม้ในความตาย Edith Macefield เจ้าของบ้าน ‘Up’ ยังคงเป็นปริศนา

รู้ยัง บ้านของ UP คุณปู่บ้าพลังมีอยู่จริง! นี่คือเรื่องราวของบ้านที่มีคุณย่าที่ไม่ยอมขายบ้าน จนกลายเป็นตำนานและแรงบันดาลใจของหนังเรื่องนี้ คุณยายอาศัยอยู่ในบ้านที่ล้อมรอบด้วยตึกสูง แม้ว่านายทุนจะเสนอซื้อบ้านของเธอในราคา 40 ล้านบาท แต่เธอก็ไม่ยอมขาย ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ในปี พ.ศ. 2549 ในชุมชนแห่งหนึ่งในเมืองซีแอตเติล สหรัฐอเมริกา กลุ่มบริษัทได้ซื้อพื้นที่ใจกลางเมืองเพื่อสร้างอาคารสำนักงานและร้านค้า เจ้าของบ้านเก่าหลายคนยอมขายเพราะได้ราคาดี แต่มีคุณยายท่านหนึ่งไม่ยอมขายบ้านและไม่ยอมย้ายออกจากบ้านของตนเอง…

Continue reading
หิ่งห้อยและการรอคอย

หิ่งห้อยและการรอคอย : คุณค่าของการรอคอย

กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก มีเด็กน้อนคนหนี่งเขาอาศัยอยู่กับปู่ ซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน เขามีความรู้สึกว่า ไม่ว่าจะอยากได้สิ่งใดปู่ของเขาก็มักจะบอกว่าต้องให้รอก่อนอยู่ร่ำไป “เราต้องหัดปลูกผักกินเองนะหลานเอ๋ย จะได้ไม่ต้องไปซื้อคนอื่นเขากิน” เด็กน้อยก็ตอบกลับปู่ไปว่า “ท่านปู่ เราปลูกผักไว้แล้ว เมื่อไหร่ถึงจะได้กินหรือครับ?” “ก็ต้องรอให้มันเติบโตเสียก่อน สัก2-3 อาทิตย์” ปู่ตอบกลับเจ้าหลานตัวน้อย วันหนึ่งเด็กน้อยอยากกินอาหารอร่อยๆ ในเมือง “ท่านปู่ๆ ข้าอยากกินติ่มซำในเมือง” ปู่ก็ได้ให้คำตอบประมาณเดิมว่า…

Continue reading